หากไปสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่นสายจะเจอกับอะไร

หากไปสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่นสายจะเจอกับอะไร

แชร์บทความนี้

มีเรื่องเกี่ยวกับการไปสายในการสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่นมาแชร์ให้ฟังครับ

เมื่อวันก่อนมีคนมาสัมภาษณ์งานที่บริษัท และผมได้รับหน้าที่ให้เป็นล่ามในครั้งนี้

กำหนดการสัมภาษณ์ คือ 10 โมงครึ่ง 

ทีมผู้สัมภาษณ์ มีคนญี่ปุ่น 1 คน คนไทยที่เกี่ยวข้องอีก 3 คน กำลังเดินไปที่ห้องประชุม

พอถึงห้องประชุมตอน 10 โมง 20 นาที 

ทางฝ่ายบุคคลเดินมาบอกว่า “ผู้มาสัมภาษณ์ยังไม่มาเลย เมื่อเช้าตอน 9 โมง โทรไปคอนเฟิร์มแล้ว เค้าแจ้งว่ามาได้ แต่ตอนนี้โทรไปยังไงก็ไม่ยอมรับสาย”

คนญี่ปุ่นได้ยินดังนั้น หยุดคิดนิดนึง แล้วถามกลับว่า “ปกติแล้วคนไทยจะมาสัมภาษณ์ จะมาถึงประมาณกี่โมง”

“ปกติจะมาก่อนเวลาอย่างน้อย 15-20 นาที”

คนญี่ปุ่นเลยตอบว่า”ถ้างั้นกลับออฟฟิศกันเถอะ คนที่ไม่รักษาเวลา เราไม่ต้องการ”

นี่เป็นตัวอย่างนึงนะครับ เรียกว่าสำหรับบริษัทญี่ปุ่น หากเราไปไม่ตรงเวลา หรือแม้ว่าจะยังไม่ถึงเวลานัดหมาย แต่ถ้าใกล้เวลาแล้ว ยังไม่มาเลย และไม่มีการติดต่อมา เค้าตัดสิทธิการสัมภาษณ์เลยนะครับ

มารยาทในการติดต่อ สำคัญมากนะครับ

หากจะมาสายกว่าเวลา หรือไม่มาแล้ว ยังไงก็ต้องติดต่อมาก่อนนะครับ

สำหรับประสบการณ์การสัมภาษณ์ส่วนตัวของผมเองมีเรื่อง เล่าให้ฟัง 3 เรื่องครับ

เริ่มเรื่องแรก

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดกับบริษัทในเรื่องด้านบนนี้ครับ

แต่คราวนี้ผมเป็นผู้มาสัมภาษณ์นะครับ คือเป็นผู้สมัครงานคนนึงนี่แหล่ะ เหตุการณ์เกิดในบริษัทเดียวกันเลย

แต่สถานการณ์กลับกันนะครับ  คือ ผมมาก่อนเวลานัดสัมภาษณ์

แต่ปรากฏว่า ตอนมาถึง ก็ยังไม่ได้เข้าสัมภาษณ์ซะที ทั้งที่ถึงเวลานัดสัมภาษณ์แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากผมแล้วยังมีแคนดิเดต(ผู้สมัครงาน)ท่านอื่น อีก 3 ท่านมารอสัมภาษณ์อยู่เหมือนกัน

อ้าว  ทุกคนถูกนัดเวลาเดียวกัน ? 

นอกจากนั้นถูกให้นั่งรอจากเวลาที่นัดหมายไปอีก 3 ชั่วโมง จนถึงเวลาเที่ยงซึ่งเป็นเวลาพักทานข้าวของบริษัทนี้

ผมเลยกลับบ้านเลยครับ เพราะถ้ารอน่าจะถึงเย็นแน่ อีกทั้งมีอีก 3 ท่านที่ยังไม่ได้สัมภาษณ์ และเราก็ไ่ม่รู้ว่าจะสัมภาษณ์แล้วได้งานมั้ย

นอกจากนั้นผมไม่ได้อยากทำที่นี่มากอะไรขนาดนั้น  และมองว่ายังมีโอกาสงานอยู่อีกเยอะ ไม่ได้จำเป็นต้องรอแต่ที่นี่ก็ได้

เหตุการณ์นี่ก็เป็นตัวอย่างนึงนะครับ  คือการสัมภาษณ์งาน ผู้สมัครมักมีอำนาจน้อยกว่ามากๆ

เพราะอยากจะได้งาน อยากได้เงินเค้า หากผู้สัมภาษณ์มาช้ากว่ากำหนด เราก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ต้องรออย่างเดียว^^

ต่อให้เรากลับไป เค้าก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร มีแต่เราที่เสียเวลา เสียค่าน้ำมัน ค่าเดินทางมา ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้งานหรือเปล่า

ที่ไทยจะต่างกับที่ญี่ปุ่น  บริษัทที่ญี่ปุ่นบางที่เค้าจะให้ค่าเดินทางเราด้วยนะครับ คือไม่ได้เรียกมาสัมภาษณ์ฟรีๆ

ไม่ว่าจะได้งานหรือไม่ได้เค้าจะให้ค่าเดินทางให้กับเราด้วย

ระบบนี้บางบริษัทญี่ปุ่นที่พึ่งจะเข้ามาในไทย ก็มีบางเหมือนกัน แต่น้อยมากๆ 

แต่จากที่เพื่อนเล่าให้ฟัง ก็ได้ยินมาเหมือนกันว่ามีบางบริษัทที่เค้ายังพอให้ค่าเดินทางมาสัมภาษณ์ (แต่ผมไม่เคยได้เลยครับ^^)

 

ต่อมาหลังจากนั้นหลายปีผมได้งานที่บริษัทนี้ แต่ไม่ได้ต้องมารอสัมภาษณ์อะไรแบบในเหตุการณ์นี้

 

เรื่องที่สอง

เหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานมาแล้ว ในช่วงที่ผมจบมาใหม่ๆ  ยังหางานไม่ได้เลย ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยแข็งแรง

บริษัทที่ไปสัมภาษณ์อยู่ที่อยุธยา

ผมได้พี่ชายคนคนช่วยขับรถพาไป

ด้วยความที่ตอนนั้นยังไม่มีกูเกิ้ลแมพ  ใช้แต่แผนที่กระดาษที่บริษัทให้มา กับอ่านป้ายตามถนนในการเดินทาง

ทำให้หลงทางและไปช้ากว่าเวลานั้น

ตอนนั้นผมโทรบอกเค้าล่วงหน้าก่อนถึงเวลานั้น ว่าน่าจะไปสายสัก 1 ชั่วโมง

ทางบริษัทยังใจดียินดีรอ แต่ปรากฏว่าผมก็ยังไม่ถึงซะที ยังคงหลงต่อ เลยโทรไปขอขยายเวลาออกไปอีก

คราวนี้ด้วยความที่รีบเพราะกลัวจะไปสายอีก

ในระหว่างที่จะเลี้ยวซ้ายเข้านิคมด้วยความรีบ มีมอเตอร์ไซอยู่ทางซ้ายมือ ไม่เบรก รถผมจึงชนกับมอเตอร์ไซต์

แต่ดีที่คนขับมอเตอร์ไซต์ไม่ได้เป็นอะไรมาก

ในระหว่างที่พี่ผมเคลียร์กับคู่กรณี

ผมขอตัวล่วงหน้าไปสัมภาษณ์ก่อน เพราะใกล้เวลาแล้ว เลยนั่งวินมอเตอร์ไซต์เข้าไปสัมภาษณ์

พอไปถึงทางบริษัทยังรออยู่ และให้สัมภาษณ์โดยที่ผมไม่ต้องรอเค้าเลย

ผมเล่าให้ฟังเรื่องที่หลงและเจออุบัติเหตุ (เล่าแบบภาษาไม่ค่อยดี แต่มีพี่ล่ามที่นั้นช่วยแปลให้)

คนญี่ปุ่นไม่ถือสาอะไรผม กลับหัวเราะอารมณ์ดีด้วย

ปรากฏว่าในครั้งนั้น เค้าให้ผมสัมภาษณ์  แม้ว่า ผลการสัมภาษณ์คือ ไม่ได้งานนะครับ

คิดว่า การที่เราโทรติดต่อเค้าอยู่เรื่อยๆน่าจะทำให้เค้ายอมสัมภาษณ์เรา

แต่การที่เรามาสายก็อาจจะเสียคะแนนในการได้งานไปด้วยเหมือนกัน

 

เรื่องที่สาม

เรื่องสุดท้ายเรื่องนี้ อยากให้อ่านจนจบครับ

คือ ผมได้เป็นผู้รับการสัมภาษณ์ที่บริษัทนึง แถวลาดกระบัง

เผื่อเวลาออกจากบ้าน 2 ชัั่วโมงกว่า 

ศึกษาแผนที่กระดาษที่ได้จากบริษัท และเตรียมมือถือที่มีกูเกิ้ลแมพไว้

ปรากฏว่าพอใกล้เวลาก็ยังไปไม่ถึงครับ

หลงทางครับ และมือถือผมก็ไม่ค่อยดี เป็นรุ่นเก่า เปิดแอพกูเกิ้ลไม่ค่อยเสถียร และสุดท้ายเน็ตหมด

ผมโทรไปแจ้งรีครู้ท(บริษัทนายหน้าที่แนะนำงานมาให้เรา) ให้แจ้งทางบริษัทหน่อยว่าจะไปสายสักครึ่งชั่วโมง

แต่พอรู้ว่าครึ่งชั่วโมงก็น่าจะไม่ถึง ก็โทรไปบอกบอกรีครู้ทอีกครั้ง

สรุปคือสายไป 1 ชั่วโมง

ไปถึงเค้าให้ไปรอที่ห้องนั่งรอ 

รอไปได้ชั่วโมงกว่าไม่มีใครมาเรียกไปสัมภาษณ์เลย 

ผมโทรบอกบริษัทนายหน้า เค้าบอกให้รออีกสักหน่อย

จนรอไปได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็มีคนไทยเชิญไปนั่งรอที่ห้องสัมภาษณ์

คนไทยให้ผมนั่งที่นั่ง ที่หันหน้าเข้าหาประตู เก้าอี้เป็นตัวกลางห้อง

สักพักคนญี่ปุ่นเค้ามา

ผมสังเกตแกจะหงุดหงิดๆ อารมณ์ไม่ค่อยดี

หลังจากสัมภาษณ์ คนญี่ปุ่นถามผมว่า “เรียนภาษาญี่ปุ่นแล้วสนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่นบ้างมั้ย”

ผมตอบว่า “สนใจครับ”

คนญี่ปุ่นตอบกลับแบบกึ่งดุว่า

“ถ้าอยากจะเก่งภาษาญี่ปุ่นก็ต้องเข้าใจวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วยนะ  อย่างเรื่องที่นั่งในการสัมภาษณ์น่ะ คุณเป็นผู้มาสัมภาษณ์ คุณควรนั่งที่ตรงนั้นหรือ? “

การสัมภาษณ์จบลง  เค้าไม่ได้ว่าอะไรผมเรื่องมาสายนะครับ แต่ผมไม่ได้งานที่นี่

หลังจากนั้นผมได้ลองเช็คดูพบว่า 

ตำแหน่งที่ผู้มาสัมภาษณ์งานควรนั่ง คือ หันหลังให้ประตูทางเข้า และใกล้ประตูมากที่สุด หรือนั่งในเก้าอี้ที่ผู้สัมภาษณ์เค้าเรียกให้ไปนั่ง

ส่วนตำแหน่งของผมคือหันหน้าเข้าหาประตูทางเข้าและนั่งตรงกลางห้อง เป็นตำแหน่งของ คนที่ใหญ่ที่สุดในการสัมภาษณ์ตอนนั้นจะต้องนั่ง

 

เป็นผมที่ผิดเอง ถึงแม้คนไทยจะพาเราไปนั่งตรงนัั้น แต่ถ้าผมรู้มารยาท ผมสามารถเปลี่ยนอธิบายเค้าและขอเปลี่ยนที่นั่งได้

และเป็นผมเองที่ไม่ได้ชี้แจงกับคนญี่ปุ่นว่าทำไมถึงมานั่งตรงนี้

 

การที่คนไทยท่านนั้นพาผมมานั่งที่ตรงนี้ก็ไม่ผิดอะไรนะครับ เพราะวัฒนธรรมคนไทย ก็คิดว่าคนมาสัมภาษณ์ก็คือ แขก เค้าก็พอมานั่งที่นั่งของแขก

แต่มารยาทที่นั่งในห้องประชุมอีกอย่างนึงของคนญี่ปุ่น คือ 

ในกรณีที่ลูกค้า หรือแขกมา 

ตำแหน่งของลูกค้า คือ หันหน้าเข้าหาประตู และนั่งไล่ไปตามลำดับความใหญ่จากกลางโต๊ะ  

ส่วนเราฝั่งผู้ต้อนรับ จะนั่งเก้าอี้ที่หันหลังให้ประตู(ตำแหน่งเดียวกับผู้สมัครงาน) โดยผู้น้อยที่สุดจะได้นั่งหันหลังใกล้ประตูที่สุด

มารยาทในการต้อนรับจะต่างกันตามบริบทครับ

 

นำมาแชร์เล่าให้ฟัง ลองศึกษาดูนะครับ เรื่องมารยาทตำแหน่งการนั่งของคนญี่ปุ่น และบางทีก็แตกต่างกันแต่ละภูมิภาคด้วยครับ

หากเข้าใจมารยาทจะช่วยในเรื่องสมัครงานได้ด้วยครับ

ขอให้โชคดีและมีความสุขในการทำงานกับคนญี่ปุ่นครับ

 

 

Facebook Comments Box

แชร์บทความนี้
Author: hailamloa
ล่ามภาษาญี่ปุ่นที่ชอบเรื่องธุรกิจ การลงทุน อสังหา บอร์ดเกม เล่นเกม เล่นหมากรุก