8 วิธีการอยู่กับหัวหน้าญี่ปุ่นที่ไม่ชอบเรา

8 วิธีการอยู่กับหัวหน้าญี่ปุ่นที่ไม่ชอบเรา

แชร์บทความนี้

ผมเชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเคยเจอปัญหานี้เหมือนๆกันนะครับ

ผมเองก็คนนึงที่เคยลาออกมาแล้วจากการที่มีปัญหา หรือไม่ชอบผู้บังคับบัญชา

8 วิธีการนี้ผมคิดขึ้นจากประสบการณ์การทำงานกับคนญี่ปุ่น

8 ข้อนี้ไม่ได้เรียงตามลำดับ หรือเรียงตามความสำคัญแต่ใดๆทั้งสิ้นและที่จริงอาจจะมีมากกว่านี้อีกเยอะ

 

ทำความเข้าใจวัฒนธรรม มารยาท ลักษณะการทำงานของคนญี่ปุ่นให้มากๆ 

1.ทำความเข้าใจวัฒนธรรม มารยาท ลักษณะการทำงานของคนญี่ปุ่นให้มากๆ 

คนญี่ปุ่นเป็นคนต่างชาตินะครับ ความคิดอะไรบางอย่างจะไม่เหมือนกับคนไทยเรา

บางคนพร้อมจะเรียนรู้วัฒนธรรมไทย บางคนก็ไม่สนใจ ยังคงใช้มาตรฐานญี่ปุ่นในเมืองไทย

แต่เราทำงานกับเค้า ต้องกินเงินเค้า

จำเป็นต้องจูนเข้าหาเค้า

รู้เค้ารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ขอให้อดทนลองเรียนรู้ดู

ว่าหัวหน้าเรา ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร คุณค่าที่เค้ายึดถือคืออะไร

พอเรารู้มารยาทหลายๆข้อแล้ว เราอาจจะเข้าใจสาเหตุที่เค้าไม่ชอบเราก็ได้

 

2.ดูให้แน่ใจก่อนว่า เค้าไม่ชอบเราจริงหรือเปล่า หรือว่านั้นเป็นปกติของเค้า

บางทีเค้าแค่เป็นแบบนั้นนะครับ ไม่ได้ชอบไม่ได้เกลียด

เราอาจจะคิดไปเอง จากที่เห็นเค้าไม่มาสนิทสนมคุยเล่นด้วย

เพราะคนญี่ปุ่นโดยสังคมคนทำงานจะไม่ เม้ากันในที่ทำงานนะครับ 

จะต่างกับคนไทยตรงจุดนี้ ที่ถ้าใครไม่เม้า ไม่เริงร่า ถือว่าไม่เป็นมิตร 

 

3.หาให้เจอให้ได้ว่าเค้าไม่ชอบเราเพราะอะไร

อย่าเอาแต่ตำหนิ เกลียดเค้า เพระาเค้าปฏิบัติกับเราไม่ดีนะครับ

ลองทำความเข้าใจเค้าดู

เค้ามีวิธีคิดยังไง ถึงได้ปฏิบัติกับเราแบบนั้น

สิ่งที่เป็นข้อพิพาท มีใครผิด ใครถูกยังไง 

เราทำงานอะไรที่ไม่ดีหรือเปล่า

ถ้าเจอจุดบกพร่องของเราให้หาทางแก้ไข

ถ้าเป็นแค่ลักษณะเฉพาะของเค้าเอง พยายามหาทางอยู่ให้เป็น

ขั้นแรกของการอยู่กับเสือให้เป็น ต้องเข้าใจพฤติกรรมเสือก่อน สังเกตและเรียนรู้ครับ

 

4.ลองทบทวนดูว่าเคยผิดสัญญาอะไรกับเค้าหรือเปล่า

อย่างที่ผมเล่าไปแล้วในตอนก่อนๆนะครับ

ว่าถ้าทำงานกับญี่ปุ่นจะต้องมีวินัย และรักษาสัญญา อย่าโกหก อย่าแก้ตัว

สามารถกดอ่านเนื้อหานั้นได้ที่ลิ้งด้านล่างนี้เลยครับ

https://www.hailamloa.com/work-with-japanese-story/iiwakesuruna/

ทำงานกับคนญี่ปุ่นอย่าแก้ตัวครับ

 

เท่าที่ผมสังเกต คนญี่ปุ่นจะเชื่อใจใครก็จะเริ่มดูจากว่าคุณรักษาคำพูดได้ดีแค่ไหน

คุณถึงจะได้เครดิตจากเค้า

พยายามรักษาสัญญา รักษาเวลา รักษาคำพูด คุณจะได้ใจจากเค้า

ไม่ต้องเก่งงานอะไรมาก แค่คุณรับผิดชอบมันได้

หากไม่ทัน หรือเกินเวลาก็ให้แจ้งล่วงหน้า อย่าบอกเมื่อเลยกำหนดเวลาแล้ว

เพราะถ้าบอกเมื่อสาย มันจะไม่ได้เป็นการรายงาน มันเหมือนเป็นการแก้ตัว

คนญี่ปุ่นเค้าซีเรียสกับเรื่องแผน และเวลามากๆนะครับ 

คนญี่ปุ่นเค้าซีเรียสกับเรื่องแผน และเวลามากๆนะครับ 

เท่าที่ผมดูแล้วเกือบทุกคนเลย จะทำอะไรต้องวางแผน แต่ละวันจะทำอะไรบ้าง เดือนหน้าจะต้องไปไหนบ้าง เค้าจะวางแพลนไว้ก่อนเลย ทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

 

5.หมั่นรายงานและขอคำปรึกษาอยู่เสมอ

เรื่องการรายงานก็เป็นอีกเรื่องนึงที่วัฒนธรรมการทำงานของคนญี่ปุ่นกับเราจะไม่ตรงกัน

เพราะคนญี่ปุ่นมักจะรายงานสถาการณ์แทบจะทุกการอัพเดทเลย

แต่คนไทยมักจะแจ้งเมื่อปัญหาเกิดแล้ว

หมั่นรายงานและขอคำปรึกษาอยู่เสมอ

งานที่เค้าให้ทำ แม้ว่าจะยังไม่เสร็จก็ให้รายงานความคืบหน้า

หากติดปัญหาให้ขอคำแนะนำ คำปรึกษา

แต่ถ้าพูดคุยด้วยไม่ได้ คุยแล้วก็จะโดนอัด โดนงัด โดนแซะ

ก็อาจจะต้องห่างๆเรื่องปรึกษา แต่เรื่องรายงานให้อดทนทำ

เคยเจอเลยครับ พี่ผู้จัดการคนนึงมาปรึกษาขอความเห็น ไม่ได้ความเห็นนะครับ

ได้แต่คำด่า คำบ่น ไม่ได้งาน ได้แต่คำกวน……

พี่ผู้จัดการก็สติเกือบหลุดเกือบสวนด้วยกำปั้นแล้ว

ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมยุ่นต้องงี่เง่าขนาดนี้ อาจจะมีเรื่องกันมาก่อนหรือเปล่าไม่แน่ใจ

 

เกี่ยวกับเรื่องการรายงานของคนญี่ปุ่น ก็จะมีหลักการรายงานอย่างนึงที่เรียกว่า โฮ-เร็น-โซ

ผมก็มีเขียนไว้ในบทความก่อนๆนะครับ สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ลิ้งด้านล่างนี้เลยครับ

http://shorturl.at/hzANR

ความสำคัญของโฮ-เร็น-โซ (Ho報-Ren連-So相)

 

นอกจากนี้ การที่เราคอยรายงานเค้าอยู่เสมอ จะช่วยลดปัญหาในเรื่องที่เค้าจะมาคอยตามงานเราอยู่เสมอ

อย่าให้หัวหน้าตามงานเรานะครับ

เราต้องเป็นคนทำงานเชิงรุก แจ้งความคืบหน้าของเราเสมอ

ให้เราเป็นฝ่ายตามการอนุมัติจากหัวหน้าเองจะดีกว่า

เวลาหัวหน้าสั่งงานเรามา ถ้าเราไม่พูด ไม่รายงานอะไรเลย

เค้าจะกังวลว่าตอนนี้สิ่งที่เค้าสั่งได้ทำหรือยัง หรือทำแล้วมีปัญหามั้ย จะเสร็จเมื่อไหร่

แต่ถ้ามารู้หลังจากที่เกิดปัญหาขึ้นแล้ว คนญี่ปุ่นจะโกรธมากนะครับ

เพราะถือว่า ก่อนเกิดปัญหาไม่มีปรึกษากัน ถ้าทำไมไ่ด้ทำไมตัดสินใจเองโดยพลการ

มาปรึกษากันอาจจะช่วยให้ปัญหาไม่เกิดขึ้นก็ได้ เพราะหลายหัวช่วยกันคิด

ถ้าคุณเอามาปรึกษาญี่ปุ่นก่อนทำ ความรับผิดชอบตกไปที่หัวหน้าญี่ปุ่น

แต่คุณตัดสินใจทำเองเลย ผิดพลาดมาคุณจะเป็นคนรับผิดชอบ+ถูกตำหนิ พร้อมกับเค้าจะเริ่มไม่ไว้ใจคุณ

 

6.อย่าไปสนใจมาก แค่คนที่เข้ากับเราไม่ได้เท่านั้นเอง

เป็นไปได้ยากมาก ที่จะเข้ากับคนทุกคนได้ดี

เตรียมใจไว้ได้เลย ว่าอาจจะเจอคนที่เคมี ไม่ตรงกับเรา

คุณอาจจะแค่เจอหัวหน้าที่ทำงานคนละแนวกับคุณอยู่ก็ได้

แต่ก่อนที่จะตีความแบบนี้พยายามเข้าใจในตัวเค้าให้ดีก่อน

ผมเป็นคนนึงนะครับ ที่ไปเป็นล่ามในแผนกที่มีความขัดแย้งกันสูงระหว่างหัวหน้ากับลูกค้า

การเป็นล่ามโชคดีที่ได้ฟังความจากทั้งสองฝ่าย

คุณจะเข้าใจสิ่งที่คู่ขัดแย้งเค้ามีปัญหากัน

เชื่อมั้ยครับ หลายครั้งเป็นการเข้าใจกันที่ผิดเท่านั้นเอง

เรื่องจริงๆไม่มีอะไรเลย

 

คนๆนึงที่เป็นหัวหน้าเรา เอาเข้าจริงๆ เค้าจะทำอะไรเราได้มากมาย

เค้าไม่สามารถฆ่าเราได้ ใช้กำลังกับเราได้

เค้าอาจจะด่าเราแรงๆ ตะคอกใส่เรา

แต่ที่จริงทั้งการด่าและตะคอก ก็คือ Power Harassment

เราอาจจะฟ้องเค้ากลับได้ด้วย ถ้าลองศึกษากฏบริษัทดูดีๆ เค้าเองก็ต้องกลัวด้วยเหมือนกัน

 

ลองคิดไตร่ตรองดูดีๆ ว่าที่เค้าดุด่า คือเรื่องงานหรือเปล่า

ถ้าใช่ เราก็ต้องเข้าใจว่าเค้าจริงจังเรื่องงาน ไม่ใช่มาแกล้งด้วยความมั่นไส้ส่วนตัว

หาจุดบกพร่องของตัวเองให้เจอ และทำการปรับปรุงพัฒนา

7.หาจุดบกพร่องของตัวเองให้เจอ และทำการปรับปรุงพัฒนา

ในหลายครั้ง แค่คุณทำงานไม่ได้ก็ผิดแล้วในสายตาผู้ใหญ่

หัวหน้าแต่ละคนมีเป้าหมาย มีเกณฑ์ที่ต่างกัน

บางครั้งแค่คุณเป็นคนมีวินัย เป็นคนดี มีนิสัยดี อาจจะไม่พอสำหรับเจ้านายของคุณ

หรืองานบางงานที่เค้าต้องการผลงานเหนือสิ่งอื่นใด

ถ้าเหตุผลเป็นแบบนี้สิ่งที่คุณต้องทำมีอย่างเดียว

คือ ฝึกฝีมือให้ทำให้ได้

จะว่าโหดร้ายก็ใช่

แต่ไม่ว่าคุณทำสำเร็จหรือไม่ คุณจะเก่งขึ้นแน่นอน พร้อมกับได้เงิน

สำหรับบางคนอาจจะอึดอัด และเครียดในสภาวะแบบนี้

ผมเองก็เคยเจอและผ่านมาครับ 

แต่พอเราเก่งขึ้น เราพัฒนาตัวเองให้ล่ามได้แล้ว 

ดันกลายเป็นว่าความสัมพันธ์ดีขึ้นซะเฉยเลย

คนที่จะมาด่าเรา แซะเรา กลับลดลง 

สุดท้าย ท้ายสุดจริงๆ ถ้าไม่ไหวก็ลาออกแต่ให้เป็นวิธีสุดท้าย

 

8.สุดท้าย ท้ายสุดจริงๆ ถ้าไม่ไหวก็ลาออกแต่ให้เป็นวิธีสุดท้าย

ถ้าคุณไม่ได้มีปัญหาทางการเงิน

ถ้าคุณพอจะมีเงินที่จะซื้อเวลาสำหรับหางานได้อย่างน้อยสัก 3 เดือน 

คุณอาจจะออกมาหางานได้ทันอยู่

ไม่ต้องกลัวบริษัทญี่ปุ่นมีอีกเยอะครับ ที่มีคนนิสัยดีๆ 

 

แต่ในโควิดNew Normal แบบนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ ว่าจะเป็นแบบในสภาวะปกติมั้ย

ในช่วงก่อนหน้านี้ งานภาษาญี่ปุ่นมีเยอะครับ ผมไม่เคยใช้เวลาเกิน 3 เดือนเลยในการหางาน

บางครั้งในการลาออกของผม ผมใช้เวลา แค่ 2 อาทิตย์ก็หางานได้แล้ว ทั้งที่มีเงินเก็บที่ใช้ได้อีกแค่ 1 เดือนเท่านั้น

ส่วนใหญ่จะได้งานในเวลาไม่เกิน 1 เดือน 

ผมถามเพื่อนคนอื่นๆแล้ว ก็พบว่า สายงานภาษาญี่ปุ่นสามารถหางานได้เร็วเหมือนๆกัน 

วงเล็บ ขอย้ำยกเว้นในช่วงโควิดนะครับ

แต่ถ้าเป็นไปได้อย่าให้คนๆนึงมาปิดกั้นอนาคตและโอกาสของคุณเลย

 

ขอฝากเพจ ให้ล่ามเล่าด้วยนะครับ

https://www.facebook.com/hailamloa

สุดท้าย ท้ายสุด

ขอให้ทุกคนโชคดี และมีความสุขกับการทำงานกับคนญี่ปุ่นครับ

Facebook Comments Box

แชร์บทความนี้
Author: hailamloa
ล่ามภาษาญี่ปุ่นที่ชอบเรื่องธุรกิจ การลงทุน อสังหา บอร์ดเกม เล่นเกม เล่นหมากรุก