ล่ามภาษาญี่ปุ่นควรมีอาชีพเสริม

ล่ามภาษาญี่ปุ่นควรมีอาชีพเสริม

แชร์บทความนี้

ที่จริงคำแนะนำนี้ ผมแนะนำทั้งสำหรับล่ามอิสระ และล่ามประจำเลยนะครับ 

โดยเฉพาะล่ามอิสระแนะนำเป็นพิเเศษ

ผมให้เหตุผลที่จำเป็นต้องมีอาชีพเสริมดังนี้

1.เงินเดือนของล่ามภาษาญี่ปุ่นสูงมากในช่วงแรก แต่มีเพดานที่ไม่ได้สูงมาก

อาชีพล่ามโดยทั่วไปที่แปลให้กับโรงงานอุตสาหกรรมนั้น เมื่อไปถึงจุดนึงเงินเดือนจะติดเพดาน    

ถ้าไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้บริหาร หรือมีตำแหน่งอื่นๆ ก็จะยากที่จะมีเงินเดือนเพิ่มขึ้นอีก แค่เค้ามีงานจ้างต่อ ก็อาจจะถือว่าดีมากแล้ว

แต่เชื่อเลยว่าหลายๆคนไม่อยากได้ตำแหน่ง เพราะความรับผิดชอบจะสูงมากขึ้น การทำงานอาจจะกดดันมากขึ้นและความสุขลดลง

ขนาดไม่ได้รับผิดชอบงานอื่นนอกจากงานล่ามปกติก็ยาก และกดดันอยู่แล้ว

หากไม่ได้ตำแหน่ง ก็อาจจะต้องมีความสามารถอย่างอื่นชดเชย ทดแทน ทำให้มีสกิลที่มากขึ้นกว่าภาษาญี่ปุ่น ก็อาจจะไปได้ต่อในเงินเดือนที่มากขึ้น

 

นอกจากนั้นปกติเงินเดือนล่ามญี่ปุ่นก็ไม่น้อยอยู่แล้ว บางบริษัทก็เท่าๆกับระดับผู้จัดการอยู่แล้ว

เหมือนจะเยอะนะครับ แต่ส่วนใหญ่ที่เค้าให้เงินเดือนระดับนั้นเพราะเค้าจ้างแบบชั่วคราว หรือแบบมีสัญญาจ้าง ทำให้ผลประโยชน์อื่นนอกจากเงินเดือน และโอที ก็แทบจะไม่ได้รับอะไรเลย

และผ่านไปปีๆนึง ส่วนใหญ่ก็จะไม่เพิ่มเงินเดือนให้ด้วย

ในช่วงเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา ผมสังเกตเงินเดือนโดยเฉลี่ยของล่าม ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย แถมยังจะลดลงมาอีกด้วย

ถึงจะรู้สึกว่าเงินเดือนเยอะในช่วงที่อายุน้อยๆ แต่พออายุเยอะมากขึ้น เพื่อนๆที่อยู่วงการอื่น ก็เงินเดือนขยับเข้ามาใกล้ๆกันจะแทบจะไม่ต่างกันเท่าไหร่แล้ว หลายๆคนก็แซงเราไปแล้วด้วย

ล่ามภาษาญี่ปุ่นถ้าเทียบในเกมตีป้อมอย่าง Dota ก็เหมือน ตัวต้นเกม เก่งเร็วมาก ในช่วงแรก แต่ปลายเกมอาจจะไปไม่ถึงดวงดาว

 

แถมสถานการณ์ในงานก็ค่อนข้างแย่ลงเรื่อยๆ เรทเงินเดือนลดลง และนวัตกรรมที่ช่วยให้สื่อสารกันได้ดีขึ้นมาก แม้ไม่มีล่าม 

แม้แต่ล่ามเองก็ยังพึ่งนวัตกรรมเหล่านั้นในงานเลยทีเดียว

ใครบ้างไม่ใช่กูเกิ้ลช่วยเช็คศัพท์ หาศัพท์ครับ ถ้ามีคอมเม้นท์มาหน่อยนะครับ ^^ อิอิ

 

เชื่อมั้ยครับ ว่าผมคนนึงที่ทำงานนี้มาเกินกว่า 10 ปี แต่เงินเดือนผมไม่ต่างกับเมื่อ 10 ปีที่แล้วเลย หรือบางทีจะน้อยกว่าด้วย

และไม่สามารถเรียกเรทเพิ่มเติมได้ มีแต่โดนกดเรท

ผมเชื่อว่าหากไปวงการอื่นนอกจากโรงงานอุตสาหกรรม ก็น่าจะมีโอกาสอื่นอีก ที่สามารถเรียกเงินได้

แต่โอกาสในการหางาน ค่อนข้างยากสำหรับผม แทบไม่ได้มีเอเจนท์ หรือใครแนะนำงานมาให้และ

และนอกจากนั้นด้วยความที่ประสบการณ์เราทำงานด้านนี้มานานมาก เราก็จะเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้

หากไปที่อื่น ก็ต้องตื่นเต้น ปรับตัวกันยกเครื่องเลยทีเดียว ต้องเรียนรู้ใหม่หลายอย่าง

แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากลองทำดูนะครับ  

แต่ต้องความตื่นเต้นน้อยๆหน่อยนะครับ อย่างงานในศาลเคยมีคนมาเสนอ ก็ไม่อยากที่จะทำเลย รู้สึกว่ากดดันใช้ได้แม้ว่าจะมีคนเคยทำแล้วบอกว่าไม่มีอะไรก็ตาม

 

ผมจึงแนะนำว่าควรจะหางานเสริมไว้ หรือในทางกลับกันงานเสริมนี้แหล่ะ ที่จะเป็นงานหลักของเราในอนาคต

เพราะอาชีพล่ามภาษาญี่ปุ่นอิสระพอยิ่งอายุเยอะขึ้นงานก็น้อยลง แถมรายได้ก็ไม่ค่อยโต และไม่ได้มีสวัสดิการอะไรให้เลย

 

แต่สำหรับล่ามประจำผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ารายได้โตต่อเนื่องขนาดไหนนะครับ หากเป็นล่ามอย่างเดียว แต่คงได้โบนัส และสวัสดิการอยู่

 

สำหรับตัวผมเอง โดยพื้นฐานไม่ได้ชอบการทำงานประจำ หรือการทำงานกับบริษัทเลย

สำหรับคนอื่นอาจจะเป็นการหาอาชีพเสริม แต่สำหรับตัวผมคือการหาอาชีพหลักที่จะมาแทนอาชีพล่าม

ล่ามภาษาญี่ปุ่นควรมีอาชีพเสริม

 

2.งานล่ามมีงานรูทีนที่ต้องทำน้อย เวลาที่เหลือมีค่อนข้างเยอะ

แต่ละที่อาจจะไม่เหมือนกันนะครับ

บางที่ทำงานก็อาจจะมีงานล่ามที่ต้องแปลประชุมดุๆ แทบจะทั้งวัน

แต่ธรรมชาติของงานล่าม คือ งานส่วนใหญ่ที่จะต้องรับผิดชอบก็จะเป็น แปลประชุม หรือการล่าม  และการแปลเอกสาร

หรือบางตำแหน่งอาจจะรับผิดชอบงานอื่นๆ เช่นพวกงานแอทมิน นิดๆหน่อยๆ

จากประสบการณ์ของตัวเองที่ทำงานมาหลายบริษัทมาก ผมค่อนข้างพูดได้ว่า ล่ามมีเวลาอิสระหลังจากจบภารกิจ หรือช่วงเวลาว่างที่เยอะประมาณนึง

มากน้อยอาจจะแล้วแต่ที่นะครับ

แต่ถ้าเทียบกับตำแหน่งอื่น พอเค้าประชุมเสร็จเค้าจะมีการบ้าน มีงานรอต้องทำอีกเพียบใช่มั้ยครับ

แต่ล่ามเรา พอจบประชุม ก็จบ ไม่มีงานค้าง ยกเว้นงานแปลเอกสาร

ช่วงเวลาว่างเหล่านี้ เราเอามาทำอะไรบ้างครับ พักผ่อน ดูเว็บไปเฉยๆ

หลายบริษัทยอมให้ล่ามอ่านหนังสือภาษาญี่ปุ่นด้วยนะครับ ใจดีเป็นบ้าเลยTT เคยเจอมาแล้ว ญี่ปุ่นเป็นคนเอ่ยปากเองเลย

แต่บางบริษัทเรียกไปตำหนิก็มีนะครับ

แนะนำว่าถ้าเป็นงานล่ามฟรีแลนซ์รายวันอย่าเอามาอ่านดีกว่าครับ เพราะเค้าจ้างเราระยะสั้น ราคาแพง และแม้เราจะเก่งขึ้นก็ไม่ส่งผลอะไรกับเค้า เพราะอยู่กันแป๊บเดียว

 

ผมไม่อยากจะแนะนำเลย ว่าให้ใช้เวลาว่างเหล่านี้ทำงานเสริม มันเป็นสิ่งที่ไม่ดี เอาเปรียบบริษัท

แต่ถ้าคุณจัดการงานคุณได้ และไม่ได้เบียดเบียนเวลางานคุณมากนัก

ถ้าทำได้ควรทำครับ มันเป็นประโยชน์กับชีวิตคุณมาก

งานล่ามบางงานเค้าจ้างคุณไปว่างทั้งวันก็มีนะครับ จริงอยู่ว่าคุณต้องแสตนบายด์ให้กับงาน

แต่ถ้าในระหว่างนั้นคุณจะเอาไลน์มาตอบแชท คุยกับลูกค้าบ้าง ก็คงจะไม่น่ามีปัญหาอะไรเกินไปใ่ช่มั้ยครับ

การเซ็ตอัพให้งานเสริมคุณเดินได้โดยมีคุณต้องไปขับเคลื่อนโดยตรงให้น้อยที่สุดก็เป็นวิธีที่ดีครับ

ใช้ศิลปะในการควบคุมจัดการกันไปครับ

แต่แน่นอนในที่ประชุมคุณจะทำอะไรไม่ได้เลยครับ

ผมแนะนำว่าถ้าจะมีงานเสริม ควรต้องมีอีกคนที่คอยซัพพอร์ตให้คุณด้วยครับ เช่นพวกตอบแชท หรือรับโทรศัพท์แทนคุณในตอนที่คุณไม่ว่าง

 

การใช้โทรศัพท์ในบริษัทญี่ปุ่น หรือต่อหน้าเจ้านายก็เป็นสิ่งที่ค่อนข้างเข้มงวดนะครับ ระวังให้ดี ญี่ปุ่นแต่ละคนไม่เหมือนกัน

เคยโดนด่าเรื่องกดมือถือบ่อยๆมาอยู่เหมือนกันครับ ^^

ล่ามภาษาญี่ปุ่นควรมีอาชีพเสริม

3.งานล่ามญี่ปุ่นอิสระไม่ใช่ว่าจะได้งานแน่นอนเสมอไป

แน่นอนถ้ารอรายได้จากงานล่ามอย่างเดียว ในช่วงที่ไม่มีงานเข้าอาจจะลำบากเรื่องการเงินไม่ใช่น้อย

ในช่วงที่รองาน ล่ามก็จะมีเวลาอยู่ แนะนำใช้เวลาช่วงนั้นสร้างธุรกิจ หรือแหล่งรายได้อื่นไว้เผื่อได้เลย

เดี๋ยวนี้มีงานค่อนข้างเยอะแยะ ที่ไม่ต้องใช้เวลามากในการดำเนินการ เป็นกึ่ง Passive Income

เช่น ทำ youtube ,ขายของออนไลน์,ทำบ้านปล่อยเช่า,ลงทุนในหุ้น,ขายประกัน,เขียนบล็อค,ทำเว็บไซต์,เขียนโปรแกรม,ทำอาหาร,ขนม ขายแอปเดลิเวอรี่,เขียนหนังสือ,เซลฟรีแลนซ์,นายหน้าต่างๆ

หรือ อะไรก็ได้ที่ธุรกิจยังเดินได้ ในวันที่เราไม่อยู่ต้องไปทำงานล่าม อาจจะจ้างคนอื่นมาช่วยดู หรือพี่น้องเรา

งานที่ไม่ใช่จะต้องใช้เวลาของเราทำอยู่ตลอดเวลา 

ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ผมว่าโอกาสค่อนข้างมีเยอะ และใช้ต้นทุนน้อย

งานเสริมของคุณอาจจะได้เงินไม่เยอะ แต่สะสมไว้หลายๆงาน แม้อาจจะยังไม่เยอะเท่างานล่ามของคุณ รายได้ก้อนเล็กๆเหล่านี้จะใหญ่พอที่จะเลี้ยงคุณได้ 

แนะนำว่าไม่ใช่ทำแค่เสริมแค่อาชีพเดียวนะครับ เสริมสาม เสริมสี่ เสริมห้า ก็ทำเท่าที่เราเห็นโอกาสและจัดการได้ได้เลยครับ

สักวันแม้ไม่มีงานล่ามคุณก็จะไม่ลำบากครับ และจะตกใจกับแหล่งรายได้อื่นนอกจากงานล่ามเพียงอย่างเดียว

มีคนอีกหลายคนนะครับ ที่เค้าไม่เคยทำงานประจำ หรืองานบริษัทเลย แต่เค้ารายได้เยอะกว่าคนที่จบปริญญาทำงานอีกนะครับ

 

4.ล่ามอิสระได้เดินทางไปในที่ต่างๆบ่อย มีโอกาสได้เห็นตลาดและรู้จักกับผู้คนในหลายๆที่

การที่เราเห็นสภาพตลาดในหลายๆที่เป็นข้อได้เปรียบอย่างนึงของการขายของนะครับ

เพราะเห็นสินค้าในแต่ละที่ เห็นคนซื้อของในแต่ละที่

บางครั้งคุณอาจจะได้แหล่งสินค้าบางอย่างที่ราคาไม่แพง

และรู้แหล่งผิดมากขึ้นก็เป็นได้

การที่ได้รู้จักคนมาก ก็อาจจะทำให้คุณมีคอนเน็กชั่นในการหาของ หรือการขายของ การเข้าไปขายให้กับบริษัทไหน

คนญี่ปุ่นบ้างคนก็ต้องการหาโอกาสอยู่แล้ว บางทีพอคุยกันอาจจะตกลงดีลอะไรกันได้ก็ได้นะครับ

5.ความไม่แน่นอนในอุตสาหกรรมธุรกิจญี่ปุ่น

อุตสาหกรรมญี่ปุ่นค่อนข้างใหญ่มากและมาลงทุนในประเทศไทยเยอะมาก

เรียกได้ว่าเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ระดับนึงเลยนะครับ

หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใหญ่มากของญี่ปุ่นและมาลงทุนเยอะมากในเมืองไทย คือ อุตสาหกรรมรถยนต์

ซึ่งก็น่าจะรู้กันดีว่าตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเข้ามาตีตลาดรถยนต์สันดาป อย่างรุนแรง

อุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่นแทบจะทั้งหมดคือ รถยนต์สันดาป 

นอกจากค่ายรถยนต์แล้วยังมีโรงงานที่เป็นเหมือนซัพพลายเออร์เป็นจำนวนมหาศาล ที่ทำธุรกิจส่งพาร์ท ส่งชิ้นส่วนต่างๆให้กับผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น

ท่าทีการของผูัผลิตรถยนต์แถวหน้าของญี่ปุ่นก็ไม่เห็นมีท่าทีว่าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาแข่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแต่อย่างใด

ในปัจจุบันผู้บริโภคก็ยังให้การตอบรถยนต์ไฟฟ้าอย่างคึกคัก

หากสภาพการอย่างนี้เกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ

หากรถยนต์ไฟฟ้าชนะรถยนต์สันดาปอย่างท่วมท้นเมื่อไหร่

ผมว่าน่าจะได้เห็นบริษัทญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับธุรกิจรถยนต์ได้ล้มหายตายจากกันมากมายแน่ๆเลย

ซึ่งงานล่ามส่วนใหญ่ของผมก็มาจากอุตสาหกรรมรถยนต์เหล่านี้นี่แหล่ะครับ

อาชีพล่ามก็น่าจะยิ่งลำบากมากขึ้นไปอีก มองแล้วหาอนาคตลำบากครับ

หากไม่มีอาชีพอื่นมารองรับไว้บ้าง คุณอาจจะตกงานในตอนที่อายุเยอะๆนะครับ

 

สิ่งอื่นที่มีคุณค่านอกจากการหาอาชีพเสริม

ที่จริงแล้วเป้าหมายของการหาอาชีพเสริมก็ คือ การหารายได้เพิ่ม

การหาโอกาสสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองนอกจากอาชีพล่าม

แต่สิ่งที่มีค่าไม่น้อยไปกว่าการหารายได้เพิ่ม คือ การศึกษาเพิ่มเติมก็เป็นสิ่งที่ดีครับ

ไม่ว่าเป็นการเรียนปริญญาโท หรือการลงคอร์สเรียนทักษะอื่นๆ นอกจากล่าม เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ไอที เขียนโปรแกรม เรียนทำอาหาร 

ไม่ว่าจะเรียนอะไรหากเสริมในด้านการทำงาน หรือสร้างทักษะใหม่ให้กับเราได้ ก็เป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้กับตัวคุณเพิ่มมากทั้งนั้นแหล่ะครับ

เพราะส่งผลต่องาน หรือส่งผลต่ออาชีพในอนาคตของคุณเช่นกัน

การใช้เวลากับความรู้ก็มีประโยชน์ไม่แพ้การใช้เวลากับการหารายได้

 

ล่ามภาษาญี่ปุ่นควรมีอาชีพเสริม

งานเสริมที่ผมแนะนำคือการขายของออนไลน์

ในช่วง 10 กว่าปีในการทำงานล่าม ผมเองก็มีอาชีพที่สองคือการขายของออนไลน์ 

ทุกวันนี้ก็ยังขายอยู่นะครับ ซึ่งค่อนข้างสร้างเสถียรทางการเงินให้ผมได้ดีประมาณนึงเลย แม้ว่ารายได้อาจจะไม่ได้เยอะเท่างานล่าม

แต่ด้วยอาชีพล่ามอิสระของผม ทำให้ผมมีเวลา ช่วงว่างงานล่ามก็มาจัดการพัฒนาธุรกิจ

ช่วงทำงานล่ามก็ให้ลูกน้องช่วยดูแลงานประจำวันส่งของ  ส่วนตอบแชทจะเป็นหน้าที่ของผมเอง ซึ่งไม่ได้ลำบากอะไรมาก จัดการได้อยู่แม้จะมีงานล่ามเข้ามา

ถ้าตอบไม่ทันก็ปล่อยลูกค้ารอไปบ้าง หรือไม่ก็ให้ลูกน้องช่วยตอบ

การที่เราทำธุรกิจไปด้วย มันช่วยเสริมความรู้ในอาชีพล่ามเหมือนกันนะครับ

เพราะทุกบริษัทต้องขายของ เราเองเป็นเจ้าของกิจการต้องการเพิ่มยอดขาย ต้องดูตัวเลข

เวลาคุยเรื่องงานขาย เรื่องบัญชี กำไรขาดทุน ลดต้นทุน ในงานล่าม ตัวเราเองก็จะยิ่งเข้าใจได้ดีขึ้น

 

สำหรับธุรกิจของผม ผมไม่สามารถเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จนะครับ

ถ้าให้ประเมินคิดว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเลยครับ อยู่ในแถวหลัง ตามคนอื่นไม่ค่อยทันหรอกครับ

แต่ดูสิครับ ขนาดนี้แล้วผมยังเอาตัวรอดมาได้เป็นเวลาที่ยาวนาน และยังคงสร้างรายได้ให้กับผมอยู่ประมาณนึงเลยทีเดียว

หากถามว่าผมขายของออนไลน์อะไร ผมขายของเล่นครับ เข้ามาดูธุรกิจผมได้ เป็นแนวทางนะครับ ที่เว็บไซต์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

www.toytorich.com

บอกก่อนนะครับ แรกเริ่มผมมือใหม่ทำจากที่ไม่รู้อะไรเลย ไม่ได้ลงเรียนคอร์สอะไรเลย ฝึกลองด้วยตัวเอง ผิดพลาดอะไรก็ค่อยๆแก้ไข ปรับปรุงไปครับ ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญมาจากไหน

 

หลังจากนี้ผมอาจจะมีบทความเกี่ยวกับธุรกิจมาเล่าให้ฟังนะครับ เพราะขายของออนไลน์มากกว่า 10 ปี ก็มีสิ่งที่ได้เรียนรู้มาหลายๆเรื่องเลยครับ

ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยครับ ^T^

Facebook Comments Box

แชร์บทความนี้
Author: hailamloa
ล่ามภาษาญี่ปุ่นที่ชอบเรื่องธุรกิจ การลงทุน อสังหา บอร์ดเกม เล่นเกม เล่นหมากรุก