ทำไมเรียนมหาลัยเอกญี่ปุ่นมา4 ปีแล้วยังพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้
ผมเองก็เป็นคนนึงที่จบเอกภาษาญี่ปุ่น
ก่อนที่ผมจะจบมหาลัยช่วงปี 3-4 ผมเริ่มกังวัลมากเลยครับ ผมว่าจะหางานอะไร เราจะทำงานได้มั้ย
เพราะผมรู้ตัวเองเลยครับว่า ระดับภาษาสนทนาของตัวเองนั้นแย่มากๆ
ถ้าในเรื่องการอ่าน การแปลเอกสาร ยังพอทำได้
แต่พอเป็นการสื่อสารการพูด การฟังแล้วจัดว่าแย่มากๆ
อย่าว่าแต่จะให้ล่ามเรา เวลาจะพูดก็นึกนาน เวลาจะฟังก็ถามไป 5 รอบก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
เมื่อรู้เช่นนั้นแล้ว ทำยังไงดีล่ะ
ผมคิดว่าการสนทนาเป็นเหมือนสกิล ที่ต้องฝึกฝนให้ชำนาญจากการใช้จริง
ไม่ใช่แค่รู้จากการอ่าน ถ้าไม่ใช้ก็จะไม่ติดปาก ไม่ติดหู
จึงคิดว่าต้องหาโอกาสฟังและพูดให้มากขึ้น
เพราะหากจบไปแบบนี้น่าจะหางานยาก เพราะแค่ตอนสัมภาษณ์ก็น่าจะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว
สมัยนั้นยังไม่มี Youtube เข้ามามากมายเหมือนช่วงนี้นะครับ
เน็ตจะเล่นทีก็เข้าถึงยากมากครับ ต้องไปที่ร้านเน็ตอย่างเดียว
จะหาเน็ตบ้านมาติดยังยากเลยครับ บางพื้นที่ยังไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเข้า
บางพื้นที่มีแต่ต้องรอให้ Slot ว่าง รอให้มีเบอร์ว่าง
มือถือแน่นอนว่ายังใช้เน็ตไม่ได้
เรียกว่าสื่อการสอนที่จะเข้าถึงเพื่อฟังภาษาญี่ปุ่นหายากมากครับ
ถ้าจะฟังภาษาญี่ปุ่นคงต้องไปเช่าเทป หรือซีดีที่ห้องสมุด หรือไม่ก็ไปเช่าตามร้านให้เช่าซีดีที่แถวพร้อมพงษ์
การจะหาเพื่อนญี่ปุ่นก็ยากมากๆเลย
ผมทำได้แค่บางครั้งติดสอยห้อยตามกับเพื่อนในคณะเพื่อไปเที่ยวคนญี่ปุ่นด้วย
โดยสรุปขนาดรู้ตัวแล้ว แต่ก็ยังพัฒนาความสามารถตัวเองให้สื่อสารได้ไม่ดีพอครับ
พอจบออกก็เห็นผลเลยครับ
ผมหางานไม่ได้ครับ เพราะตอนสัมภาษณ์ คุยกับผู้บริหารคนญี่ปุ่นไม่รู้เรื่องครับ
สำหรับผู้ใช้ภาษาญี่ปุ่นแบบเรา มีงานมากมายก็จริงๆครับ
แต่ไม่ว่าจะตำแหน่ง ล่าม เซล QC จัดซื้อ ฝ่ายบุคคล ทุกตำแหน่งถ้าเราเข้าไปในหน้าที่ที่ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่น เค้าต้องการคนที่พอจะคุยรู้เรื่อง
ตอนผมสัมภาษณ์งานผมสัมภาษณ์ไป 4 บริษัทไม่ได้สักบริษัทเลยนะครับ
เรื่องภาษาผมว่าก็พอใช้ได้นะครับ
เกรดเฉลี่ยอาจจะไม่ได้เยอะเท่าไหร่ ถือว่ากลางๆเกือบ 3
การอ่านเอกสารผมค่อนข้างมั่นใจครับ ว่าอ่านได้
แต่การสนทนาคือไม่เอาอ่าวเลยครับ ไม่เคยได้เกิน C+ เลย
อันนี้เป็นจุดอ่อนสำคัญมากครับ
พอคุณพูดกับเค้าไม่ได้ มันทำให้ปิดประตูตั้งแต่ก่อนเข้าไปเลย
หลังจากนั้นผมทำยังไง ในเมื่อจบมาแล้วก็หางานไม่ได้
เหตุการณ์ต่างๆในช่วงนั้นของผมเป็นยังไงผมมีเขียนแชร์ให้ในบทความนี้ครับ
งานล่ามญี่ปุ่นลำบากสุดคือช่วงแรกของการทำงาน
ผมก็เริ่มฝึกฝนต่อครับ อ่านเพิ่มเติม เรียนภาษาเพิ่มเติม ลงเรียนพิเศษ
ฝึกฟังเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ใช้พูด
แต่พอฟังไปมากๆ ภาษามันเริ่มเข้าหูครับ พอจะนึกคำออกบ้างเวลาจะพูด และฟังเข้าใจมากขึ้น
หลังจากนั้นก็หางานได้ครับ
แต่พอเป็นงานเกี่ยวกับล่ามในโรงงาน
แน่นอนว่าคุณต้องเรียนภาษาใหม่ทั้งหมดเลย
เพราะศัพท์ในโรงงานมีศัพท์เฉพาะเยอะมาก
ที่ไม่มีสอนในหลักสูตรมหาลัย คุณก็จะเหมือนต้องมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
อีกทั้งระบบ และการใช้คำในธุรกิจ ในอุตสาหกรรมแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกันด้วย
ต้องมาเรียนรู้เรื่องของระบบด้วย
สิ่งนี้เลยเป็นคำตอบว่า ทำไมเรียนจบมา 4 ปีแล้วถึงยังแปลไม่ได้
ที่ยังจบมาแล้วยังแปลไม่ได้ผมสรุปได้ดังนี้ครับ
1.ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้พูด ได้ฟัง
2.ฟังน้อยเกินไป ไม่ได้มีโอกาสได้ฟังภาษาญี่ปุ่นเลยนอกจากห้องเรียน
3.ไม่รู้คำศัพท์
4.ไม่รู้วิธีการพูด
5.ไม่เข้าใจระบบการทำงาน
6.ไม่เข้าใจเนื้อหางาน
7.ไม่เข้าใจหลักการคิดของคนญี่ปุ่น ในตอนที่จะสื่อสาร
ขยายความคือ ใช้ภาษาญี่ปุ่นแบบคนญี่ปุ่น ไม่ใช่แบบแปลจากไทยและเป็นญี่ปุ่น
ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้มันจะเกิดขึ้นเรื่อยๆครับ
คือแน่นอนว่าเรื่องพื้นฐานคุณพูดได้ รู้ศัพท์แล้ว
แต่พอไปทำที่ใหม่ก็ต้องเจอเรื่องใหม่ ปรับตัวอยู่เรื่อยๆ เรียนรู้อยู่เรื่อยๆครับ
เหมือนเล่นเกม เราเก่งขึ้นแล้วก็เจอด่านที่ยากขึ้นเรื่อยๆ
แต่แน่นอนว่ารายได้เราก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามความชำนาญของเราครับ