ก่อนจะพูดเรื่องอายุของล่ามญี่ปุ่นหางานยากมั้ย ขอพูดเรื่องโควิดกับการหางานก่อนแล้วกันนะครับ
ช่วงโควิดสองปีที่ผ่านมานี้นะครับ ไม่ว่าใครก็หางานยากครับ
ล่ามจะเก่ง ไม่เก่ง คอนเน็คชั่นเยอะ หรืออายุมากน้อยแค่ไหน ล่ามฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่กระทบโดนกันหมดครับ
จากประสบการณ์ที่ได้เจอล่ามหลายๆท่าน หลายท่านเก่งมากๆนะครับ ก่อนโควิดเคยได้เงินดีๆ มีคอนเน็คชั่นมากมาย
พอโควิดมา ทุกอย่างหายไปหมดครับ งานในตลาดหาย เงินที่ได้รับดีๆโดนกดต่ำ เรียกว่าสองปีที่ผ่านมานี้ วิกฤตสำหรับล่ามจริงๆนะครับ
แต่แน่นอนว่ามีหลายคนที่จับงานไว้ได้ ได้เงินดี หรือได้งานระยะยาวก็มีอยู่หลายท่านครับ ถือว่าท่านโชคดีมากครับ
แต่หลายคนไม่ได้โชคดีแบบนั้นครับ
ในตอนนี้ผ่านช่วงจุดต่ำสุดของวิกฤตมาแล้วนะครับ สถานการณ์หลายๆอย่างคลี่คลายขึ้นเยอะแล้ว
เรียกว่า เห็นบริษัทโพสหาคนกันค่อนข้างเยอะ และเรทรายได้ก็เรียกว่าค่อนข้างสูงพอสมควรครับ
สำหรับท่านที่ลำบากในการหางาน อย่าพึ่งหมดหวังนะครับ แสงสว่างมาแล้ว น่าจะได้งานในอีกไม่ช้าครับ
สำหรับผมซึ่งอายุเรียกว่าใกล้จะวัยกลางคนแล้ว ถามว่าหางานยากมั้ย
ผมว่าอายุมีผลอยู่บ้างครับ แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุส่วนใหญ่
ความเห็นส่วนตัวคิดว่า หางานยากขึ้น 10กว่าๆเปอร์เซ็นต์เท่านั้นครับ
เปอเซ็นต์นี้ผมให้จนถึงอายุ 50 เลยครับ
ทำไมผมคิดแบบนั้น ?
ในช่วงที่ผ่านมาผมเจอล่ามรุ่นพี่ที่อายุค่อนข้างเยอะหลายท่านเลยครับ ที่อายุเกิน 50 ปี
ผมได้ลองคุยกับเค้าเหล่านั้น พบว่าช่วงอายุ 40 กว่าปี จนถึงปัจจุบัน 50 กว่าปี
ท่านๆเหล่านั้นก็ยังเป็นฟรีแลนซ์อยู่ครับ ไม่ได้จับงานประจำทำระยะยาวเลยครับ
อาจจะเป็นสัญญาล่ามบ้างนานเป็นปีๆ แต่ก็อยู่ไม่ได้ถึง 5 ปี ก็ย้ายบริษัทนะครับ
ในช่วงย้ายงาน ท่านๆเหล่านั้นก็ยังหางานได้ และไม่ได้ดูมีปัญหาในการหางานเลยนะครับ
แต่สิ่งที่เป็นเงื่อนไขสำคัญคือ แม้ว่าจะอายุเยอะแล้ว แต่ความสามารถท่านต้องมากตามอายุด้วยครับ คือต้องทำงานได้่
ทุกท่านที่ผมเจอคือ มีสกิลครับ เก่งมากบ้าง น้อยบ้างว่ากันไป
แต่ถ้าอยู่ในระดับมาตรฐานทำงานได้ ยังมีบริษัทที่เค้าเปิดรับล่ามฟรีแลนซ์อยู่ครับ
ล่ามรุ่นใหญ่หางานกันยังไง?
เท่าที่ผมสัมผัสพบว่าส่วนใหญ่ทุกท่านใช้บริการบริษัทจัดหางานครับ หรือว่าพวกรีครู้ทนี่แหล่ะครับ
แม้ว่าจะมีงานคอนเน็คชั่นมา แต่งานที่ได้กันส่วนใหญ่คือมาจากรรีครู้ทครับ
ในปัจจุบันมีรีครู้ทหลายเจ้ามากนะครับ ลองเสิร์ชหาดูยังไงก็เจอครับ ตามกลุ่มในเฟสบุ๊คต่างๆ
รีครู้ทมีเยอะ แต่งานก็ยังเยอะจ่ายให้ล่ามได้หลายตำแหน่งนะครับ
บางบริษัทรับล่ามมาซัพพอร์ตคนญี่ปุ่นเยอะมาครับ เรียกว่าบริษัทเดียวมีญี่ปุ่นมากว่า 30-40 คน เรียกล่ามกันมากว่า 10 กว่าคนเลยทีเดียวครับ
ผมไปเจอล่ามรุ่นพี่ๆที่บริษัทนี้เยอะมากครับ เห็นหลายท่านอายุอยู่ในช่วง 40-50 ปี นี่แหล่ะครับ
ผมคิดว่าต่อไปก็ยังคงใช้รีครู้ทกันซะส่วนใหญ่แหล่ะครับ เพราะหางานได้ง่ายที่สุด และล่ามไม่ได้เสียเปรียบอะไรเลยครับ มีแต่ได้ประโยชน์
ถ้าอายุเยอะแล้วแต่ยังความสามารถไ่ม่เก่งล่ะ ทำยังไง?
ผมได้มีโอกาสรู้จักล่ามรุ่นพี่ท่านนึงครับตั้งแต่เมื่อเกือบ 10 ปีก่อน ในช่วงนั้นพี่คนนี้เค้าก็อายุเกือบจะ 50แล้วครับ
รุ่นพี่ท่านนี้ไม่ได้มีสกิลล่ามที่เก่งครับ และเป็นที่เลื่องลือในวงการล่ามเรื่องการแปลที่ไม่ค่อยดีของพี่เค้า
เวลาตอนที่แกเข้าห้องประชุมและมีล่ามคนอื่นที่เก่งกว่าอยู่ด้วย แกจะไม่แปลครับ จะโยนให้ล่ามท่านอื่นแปลเลย
จากที่ผมได้สัมผัสกับFeed back ของผู้ที่เคยให้พี่เค้าแปล ส่วนใหญ่ได้ผลตอบรับที่ไม่ค่อยดีครับ
ถ้าให้พูดง่ายๆ คือแกไม่ค่อยเก่งครับ แปลไม่ค่อยดี
แต่เชื่อมั้ยครับ ว่าพี่คนนี้สามารถอยู่ในอาชีพล่ามฟรีแลนซ์ญี่ปุ่นได้จนถึงในปัจจุบันนี้ก็ยังทำงานล่ามอยู่
ซึ่งแน่นอนว่าอายุเกือบ 60 แล้วครับ
แต่ผมยังได้ยินมาว่า ในช่วงโควิดสองปี แกก็ยังมีงานทำ และบางงานลูกค้าจ้างให้ไปแปลที่ประเทศญี่ปุ่นเลยนะครับ
หลายๆงานแกได้ค่าล่ามที่ราคาดีประมาณนึงเลยครับ และแกไม่เรียกราคาค่าล่ามที่ไม่ต่ำเลยนะครับ (เรียกได้ว่าบางทีแกเรียกสูงกว่าล่ามเทพๆหลายคนอีกครับ)
บางงานได้ไปแปลในศาล ซึ่งงานนี้ค่อนข้างจะหายากและผลตอบแทนดี และล่ามส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากไปเพราะรู้สึกกลัวงานศาล
ขอนอกเรื่องนิดนึง ผมไม่เคยได้ทำนะครับ งานศาล มีแต่เกือบๆได้ทำ
แต่ส่วนใหญ่คนที่เคยทำพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ยากครับ ทำงานแค่ครึ่งวันได้เงินเยอะกว่าทำเต็มวันก็มี
กลับมาเรื่องพี่เค้าต่อนะครับ
เรียกว่างานแกเข้าค่อนข้างตลอดครับ และหลายๆงานแกได้รายได้ที่มากกว่าล่ามที่เก่งกว่าแกด้วยครับ
จากที่ผมได้คลุกคลีกับแกอยู่ช่วงนึง ผมจับเทคนิคการหางานของแกได้ดังนี้ครับ
1.แกไม่เลือกงานครับ ขอให้รายได้ อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ แกรับหมดครับ ไม่ว่างานยาก งานง่าย ไม่สนใจว่าทำได้ไม่ได้ แกทำใจกล้ารับมีดทุกงานครับ
เรียกว่าแกไม่อยู่ใน save zone ครับ
2.แกเป็นคนไม่คิดมากวิตกกังวลครับ แม้ว่างานที่ผ่านมาจะผลงานไม่ดี แต่แกไม่เก็บมาทุกข์ครับ เรียกว่าที่นี่ไม่ให้ทำต่อก็หางานใหม่
3.แกเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นเก่ง มนุษยสัมพันธ์ดี งานหลายๆงานเค้าจะได้รับการแนะนำจากคนรู้จักครับ
4.เค้าตระหนักอยู่เสมอครับ ว่างานล่ามหายาก แกเลยไม่ค่อยที่จะพลาดในการรับงาน เรียกได้ว่าเรื่องงานเป็นเรื่องหลัก เรื่องเที่ยวเรื่องอื่นเรื่องรอง
5.พี่เค้าได้ภาษาอังกฤษด้วย เรียกว่าถ้ามีงานล่ามญี่ปุ่น อังกฤษ แกสามารถรับได้ ซึ่งงาน 3 ภาษาก็จะได้เปรียบประมาณนึง แต่ภาษาอังกฤษแกก็ไม่ได้เก่งมากเท่าไหร่นะครับ
6.พี่เค้าไม่ได้รับเงินทางเดียว แกรับเงินจากทางอื่นด้วย พอมีอาชีพอื่นช่วยด้วย ก็จะมีรายได้มาเสริมแม้ว่าจะขาดช่วงงานล่ามญี่ปุ่น
7.ถึงฝีมือจะไม่เก่ง แต่งานหลายงานไม่ได้ใช้สกิลอะไรมาก บางงานแค่ความสามารถระดับN3 ก็รับเงินระดับ 4-6000 ได้อยู่ครับ เรียกว่าโชคดีไปครับ
ในวงการล่ามญี่ปุ่น งานบางงานยากและค่าแรงถูก งานบางงานง่ายแต่ค่าแรงสูง เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยครับ
ซึ่งแม้ว่าจะมีบริษัทที่พี่เค้าทำไม่ได้อยู่ แต่ก็มีบริษัทที่พี่เค้าทำได้อยู่ครับ
8.สกิลความเก่งในการล่าม กับสกิลการหางานเป็นเรื่องที่แยกกัน
จริงอยู่ว่าพอเราเก่งงานเข้ามาเอง
แต่การทำตลาด การหาตลาด หรือมีคอนเน็คชั่นถ้ามีเสริมไว้อีกด้านก็จะช่วยเสริมให้มีงานมาต่อเนื่อง
หรือเลือกที่จะรับงานที่ดีๆ เงินดีๆ หรือไม่อึดอัดมากได้ คือยิ่งมีตัวเลือกมากยิ่งทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นกว่าตัวเลือกน้อยน่ะครับ
พี่รุ่นใหญ่ท่านนี้เค้ามีพลังในการหางานครับ ถ้ามีงานประกาศมา แกไม่รีรอเลยที่จะโทรไปเลย คือทำตัววิ่งเข้าหางานครับ
บริษัทญี่ปุ่นมีเยอะครับ เยอะมากพอให้คุณไปผจญภัยจนถึงวัยเกษียณครับ
แม้ว่าพี่เค้าอาจจะไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีเท่าไหร่
แต่ผมอยากหยิบยกมาบอกคือ บริษัทญี่ปุ่นมีเยอะ แม้ว่าคุณอาจจะPerformanceไม่ค่อยดี แต่ก็ยังมีงานให้คุณทำอยู่จนถึงอายุเยอะๆเลยทีเดียว
งานล่ามเป็นอีกอาชีพที่แม้ว่าอายุเยอะแล้ว แต่ถ้าความสามารถคุณยิ่งสูง ลูกค้าก็ยังต้องการ
อนาคตไม่แน่นอนทุกคนอาจจะไม่ได้โชคดีแบบพี่เค้านะครับ
ยังไงสกิลความรู้และความสามารถเป็นสิ่งที่สำคัญครับ
งานล่ามเป็นงานที่ต้องพัฒนาไม่รู้จบ เรียนรู้ไปทั้งชีวิตนะครับ
ขอให้โชคดีหางานได้ อยู่รอดในวงการล่ามฟรีแลนซ์กันนะครับ
ขอฝากเพจ ให้ล่ามเล่า ด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/hailamloa